
ใครคือเทพแห่งความรู้?
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ ซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ (Sugawara no Michizane) ขุนนางผู้มีชื่อเสียงด้านวรรณกรรมและการปกครองในยุคเฮอัน ชีวิตของเขาถูกเล่าขานอย่างยิ่งใหญ่ แม้ตอนมีชีวิตจะถูกเนรเทศจากเกียวโตมาสู่ดะไซฟุ แต่หลังเสียชีวิต กลับได้รับการยกย่องให้เป็น “เทพเจ้าแห่งการศึกษา” และมีศาลเจ้ากว่า 12,000 แห่งทั่วญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อเคารพบูชาเขา
แต่ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู ที่เมืองฟุกุโอกะนี่แหละ คือ ศาลเจ้าหลัก หรือ “ฮอนงู” ที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญที่สุด

สะพาน 3 ช่วง เดินผ่านอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
เมื่อเดินเข้าสู่เขตศาลเจ้า สิ่งแรกที่ต้องข้ามคือสะพานไม้สีแดง 3 ช่วงทอดยาวเหนือสระน้ำ “ชินจิอิเคะ” (Shinji-ike) บางคนอาจคิดว่าเป็นแค่สะพานธรรมดา แต่จริงๆ แล้ว ทั้ง 3 ช่วงนั้นแทนความหมายลึกซึ้ง คือ “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” เป็นเสมือนการชำระล้างใจให้สะอาดก่อนเข้าเฝ้าเทพเจ้า เหมือนการปล่อยวางเรื่องเก่า เรียนรู้สิ่งที่เป็นอยู่ และหวังใจต่ออนาคตที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง

วัวทองสัมฤทธิ์ สัญลักษณ์แห่งปัญญา
ก่อนถึงศาลเจ้าหลัก หลายคนจะสังเกตเห็น รูปปั้นวัวสัมฤทธิ์ ท่านั่งหมอบ มีถึง 10 ตัว ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ต้องไม่พลาด เพราะเชื่อกันว่า หากลูบหัววัว หรืออวัยวะที่ตรงกับจุดเจ็บป่วยของตัวเอง จะช่วยเสริมพลังให้หายดีและเพิ่มพูนสติปัญญา มีคำกล่าวว่า วัวตัวนี้เป็นสัตว์ประจำตัวของเทพเจ้าแห่งความรู้ด้วยเช่นกัน

ถนนซังโดะ เดินช้อปเพลินก่อนเข้าสู่ศาลเจ้า
อีกหนึ่งเสน่ห์ของศาลเจ้าดะไซฟุ ก็คือถนนสายช้อปปิ้ง “ซังโดะ” ที่เรียงรายไปด้วยร้านขนม คาเฟ่ และของฝากกว่า 100 ร้าน เดินเพลินๆ ได้ทั้งขาไปและขากลับ ที่ห้ามพลาดเลยคือ “อุเมะงาเอะโมจิ” ขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงกลิ่นหอมจากเตาถ่าน เป็นของขึ้นชื่อประจำถนนนี้ และเหมาะจะซื้อเป็นของฝากกลับไทยแบบไม่ต้องคิดนาน

สตาร์บัคส์สาขาสวยที่สุดในญี่ปุ่น
ใครว่าแวะศาลเจ้าจะมีแค่ความคลาสสิก? ลองเลี้ยวเข้าร้านสตาร์บัคส์ที่ตั้งอยู่ริมถนนซังโดะ แล้วจะรู้ว่าสถาปัตยกรรมร่วมสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมไปด้วยกันได้ดีแค่ไหน เพราะที่นี่คือหนึ่งใน “สตาร์บัคส์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” ด้วยงานไม้สานไขว้จากดีไซน์เนอร์ชื่อดัง Kengo Kuma ถ้าโชคดีได้ที่นั่งติดกระจก มองเห็นผู้คนเดินไปมาในบรรยากาศศาลเจ้า บอกเลยว่าจิบกาแฟก็ยังรู้สึกเหมือนได้รับพลังบางอย่าง

ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู
ที่อยู่: 4-7-1 Saifu, Dazaifu, Fukuoka
เวลาเปิด: 6:30–19:00 (เวลาอาจเปลี่ยนตามฤดูกาล)
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ Nishitetsu จากสถานี Tenjin ไปลงสถานี Dazaifu (ประมาณ 30 นาที)
ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู ไม่ใช่แค่สถานที่ขอพรเรื่องเรียน แต่เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ และบรรยากาศสวยงาม ทั้งในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง หรือแม้แต่ฤดูหนาว ใครแพลนเที่ยวญี่ปุ่นและกำลังมองหาสถานที่เติมพลังใจพลังงานดีๆ และยังได้รูปสวยๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด

ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู
ที่อยู่: 4-7-1 Saifu, Dazaifu, Fukuoka
เวลาเปิด: 6:30–19:00 (เวลาอาจเปลี่ยนตามฤดูกาล)
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ Nishitetsu จากสถานี Tenjin ไปลงสถานี Dazaifu (ประมาณ 30 นาที)
ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู ไม่ใช่แค่สถานที่ขอพรเรื่องเรียน แต่เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ และบรรยากาศสวยงาม ทั้งในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง หรือแม้แต่ฤดูหนาว ใครแพลนเที่ยวญี่ปุ่นและกำลังมองหาสถานที่เติมพลังใจพลังงานดีๆ และยังได้รูปสวยๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด