ฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้สุดของเกาะฮอกไกโด เมืองนี้โดดเด่นด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะถูกสร้างขึ้นจากสันดอนทรายที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อกว่า 3,000 ปีก่อน ปัจจุบัน ฮาโกดาเตะกลายเป็นเมืองท่าอันรุ่งเรืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตก ผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว
ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ฮาโกดาเตะจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน แสงไฟประดับตามถนนและต้นไม้เปล่งประกายระยิบระยับจนราวกับหลุดเข้าไปในฉากโรแมนติกของหนังรัก
ไฮไลต์ที่ต้องไปเช็กอินในฮาโกดาเตะ
ป้อมปราการโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Tower) แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาด ป้อมปราการรูปดาวแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคเอโดะ ก่อนจะกลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามในปัจจุบัน ไฮไลต์คือการขึ้นไปบน หอคอยโกะเรียวคาคุ ที่มีความสูงถึง 107 เมตร เพื่อชมวิวป้อมปราการและเมืองฮาโกดาเตะแบบ 360 องศา วิวที่เห็นจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าหนาวที่ป้อมจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ สวยงามจับใจ
ชมวิวกลางคืนที่ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) วิวกลางคืนของฮาโกดาเตะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “วิวกลางคืนที่สวยที่สุดในโลก” คุณสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ ที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับดั่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman-zaka Slope) เดินเล่นบนถนนสายโรแมนติกที่สุดในญี่ปุ่น ถนนสายนี้ทอดยาวลงไปถึงชายฝั่ง โดยในช่วงหน้าหนาวจะมีการประดับไฟตามต้นไม้สองข้างทาง ให้บรรยากาศสุดอบอุ่นชวนฝัน
โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่ผสมผสานความเก่าแก่และทันสมัย โกดังแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่หลากหลายสไตล์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาส คุณจะได้พบกับต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่ห้ามพลาด
สวรรค์ของคนรักอาหารทะเล ฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ ใครที่หลงใหลในซูชิหรือซาชิมิไม่ควรพลาดเด็ดขาด ตลาดปลาท้องถิ่นของที่นี่มีวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากทะเลทุกวัน ลองชิม ข้าวหน้าทะเลสด ที่อัดแน่นไปด้วยไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน และปลาสดๆ ที่ให้รสชาติหวานฉ่ำจนต้องร้องว้าว
ฮาโกดาเตะสวยงามในทุกฤดู แต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป แม้ฤดูกาลที่เปลี่ยนไป แต่ความงดงามไม่เคยจางหาย
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ท้องฟ้าสดใส และหมอกยามค่ำคืนที่เพิ่มความลึกลับ
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (กันยายน-พฤศจิกายน) ใบไม้เปลี่ยนสีแดงส้มสร้างสีสันให้กับเมือง
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) หิมะขาวโพลนและแสงไฟประดับที่ทำให้เมืองดูโรแมนติกขึ้นหลายเท่า
การเดินทางสู่ฮาโกดาเตะ สามารถเดินทางจากสนามบิน New Chitose (ซัปโปโร) ด้วยรถไฟด่วน JR Hokuto หรือเลือกนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวก็สะดวกสบาย
ฮาโกดาเตะ เมืองนี้มีทั้งเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ ความงดงามของธรรมชาติ และความอบอุ่นของแสงไฟที่พร้อมจะทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราหัวใจพองโต… ใครมาเที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น และกำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวสุดโรแมนติก อย่าลืมเพิ่มฮาโกดาเตะไว้ในลิสต์การเดินทางนะคะ
